Lofoten (ลูฟูเทน) หมู่เกาะและเขตในเทศมณฑลนอร์ลันด์ ประเทศ NORWAY Lofoten เป็น Trend ท่องเที่ยวที่ Winterclothing อยากแนะนำอย่างสุดตัวว่ายังไงต้องหาโอกาสไปให้ได้ เนื่องจากมีทิวทัศน์อันโดดเด่น มีภูเขาและยอดเขาที่สวยงาม ทะเลเปิดและอ่าวกำบัง ชายหาดและดินแดนที่ยังเข้าไม่ถึง แม้จะอยู่ในวงกลมอาร์กติก แต่เสนห์ของ Lofoten กลับกลายเป็นภาพที่สวยทุก ฤดูกาล โดยเฉพาะหน้าร้อนที่จะเจอพระอาทิตย์เที่ยงคืนและ หน้าหนาวที่จะเจอแสงเหนือ (Aurora)
โดยในบทความวันนี้ Winter Clothing ร้านเช่าเสื้อกันหนาว จะพามารู้จักกับ LOFOTEN และตำแหน่งยอดนิยมในการถ่ายรูป และชวนมาดูทิวทัศน์ที่สุดสวยงาม โดยแม้แต่หลับตาและใช้กล้องมือถือถ่ายไปมั่วๆยังได้ภาพที่สวยงามกันเลยทีเดียว
TRIP นี้เกิดจากความตั้งใจจากตอนที่สมัยไป ICELAND คือตอนนั้นนั่ง EMIRATE ไปที่ OSLO เพื่อต่อเครื่องบินไป ICELAND มีเวลาอยู่ 1 คืน แต่ไอ้ 1 คืนนี่ประทับใจสุดๆกับเมืองที่มีขนาดเล็ก อาหารการกินที่ดูไรก็น่ากินไปหมด ถึงแม้จะต้องประหยัดเงินก็ตามเพราะแพงหลายตอนนั้นเลยก็ว่าต้องกลับมาเจาะประเทศนี้ให้ได้
ผ่านไป 3 ปี ประกอบกับมีตั๋วโปรออกมา TRIP นี้จึงเกิดขึ้นซึ่งครั้งนี้ตอนแรกเรามีเป้าหมายที่เดียวคือ TROMSO (ทรุมเซอ) เพราะตอนที่หาข้อมูลไป ICELAND ที่นี่ก็ขึ้นมาคู่กันเลย ว่าเป็นดินแดนของ แสงเหนือของ NORWAY ประกอบกับภาพPROMOTE ของ ทรุมเซอเลยตั้งเป้าว่าต้องไปที่นี่หละ
ซึ่งผมค่อนข้างจะตื่นเต้นกับ TRIP นี้มาก โดยวางแผนใช้เวลา 12 วันในการเที่ยว โดยไล่จากด้านบนของ Norway ลงมา เริ่มจาก Tromso บินลงมาที่ Lofotenและ บินลงมาที่ Bergen และสุดท้ายที่เมือง Stavanger แต่ต้องบอกไว้ครับ ช่วงที่เราไปนี้ ตั้งแต่เมษายน ไปจะเริ่มเข้าสู่ช่วงพระอาทิตย์เที่ยงคืนซึ่งเป็น Highlight ของ Norway เค้าซึ่งจะเกิดปรากฏกาณ์นี้ในฤดูร้อน กลางเดือนพฤษภาคม ถึง ปลายเดือนกรกฏาคม แล้วก็จะเข้าสู่ช่วงมึดมิดตลอด 24 ชั่วโมงเช่นกัน ทำให้ช่วงเมษาถูกพยากรณ์ว่าพระอาทิตย์จะตกตอน 20.00 และขึ้นตอนตี 4 ถึง ตี5 ซึ่งดูง่ายๆจะมีเวลามึดถึง 8 ชั่วโมง แต่ไม่ใช่นะครับ เราต้องบวกช่วงที่เราเรียกว่า Twilight ไปอีกอย่างน้อย 2 ชั่วโมงหัวและท้าย ทำให้เรามีเวลามึดจริงๆ4 ชั่วโมง ทำให้TRipนี้เราไม่หวังจะเจอแสงเหนือเลย แค่เจอหิมะ เราก็ดีใจแล้ว
Fly to LOFOTEN แต่ด้วยความที่กำลังเป็น Trend อยู่ เราเลยขอตัดมากล่าวถึง Lofoten กันก่อน โดยการเดินทางทั้ง Trip ของเราเลือกใช้การเดินทางด้วยเครื่องบินในการย้ายเมืองต่างๆ เนื่องจากใช้เวลาน้อยสุดแล้วเมื่อเทียบกับอย่างอื่น โดยเราเลือก Direct Flight จาก TROMSO – LEKNES (LOFOTEN) เลยซึ่งจะมีเที่ยวเดียวเท่านั้นใน 1 วันโดยเที่ยวอื่นต้องไป VIA BODO ก่อน
Lilleeid Lodge หลังจากที่เรา LANDING ที่ LEKNES AIRPORT เวา 19.45 เราก็เร่งไปรับรถที่เราจองไว้เป็น BENZ GLA แต่ท้ายสุดดันได้ BMW SERIES 3 มาแทน ซึ่งค่าเช่าแพงกว่า BENZ ที่เราจองมา ก็เลยหยวนๆกันไป หลังจากเก็บข้าวของขึ้นรถแล้วก็รีบบึ่งไป Lilleeid Lodge ซึ่งเป็นที่พักของเราในคืนนี้ (ขอบอกว่าการเที่ยวเดือนเมษานี่ห้องพัก รถ อะไรก็ถูกไปหมด) ที่พักของเราเป็น Villa อยู่ติดทะเลสาบใหญ่โตเหมาะนอนพักได้ 6-8คน และที่เราชอบใจเป็นพิเศษ ก็คือ มีห้องกระจกให้เรารอเฝ้าแสงเหนือแบบอุ่นได้ตลอด (แอบหวัง) แถมมีเตาไฟผิงให้เราหลบหนอนได้เป็นอย่างดี แต่ไม่ทันได้ถึง พายุหิมะก็ลงมา ทำให้เราปลง (หรือดีใจดีที่มีหิมะ) และเข้านอน ภาวนาให้พรุ่งนี้จงอากาศดี
LOCATION
68.139672, 13.537527
เหมือนสวรรค์เห็นใจเช้านี้อากาศสดใส แดดจ้า แถมมีวิวของหิมะที่ตกหนักจากเมื่อคืน เลยจัดโจ๊กเป็นอาหารเช้าพร้อมกับวิวอันแสนคุ้มที่ลงทุนไป ห้องพักที่นี่มีอุปกรณ์ครบครันมากแนะนำคะ หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จก็รีบเก็บของใส่ชุดกันหนาว และ เตรียมออกไปถ่ายรูปตามแผนที่ตั้งไว้
Road to Vitken โดยวันนี้เราตั้งใจที่จะขับรถลงไปทางใต้จนถึงเมือง A โดยจุดแรกที่เราตั้งเป้าหมายไว้ เป็นแค่ริมทางถนนเส้นFv804 ที่แยกออกจากเส้นหลัก E10 ซึ่งจะมีมุมที่มีผาหินเป็นฉากหลังดูยิ่งใหญ่และได้ภาพที่ดูแปลกตาไปซึ่งเป็นการเริ่มต้นที่ง่ายๆสำหรับวันนี้
Location
68.124356, 13.321431
คือไม่รู้จะเขียนและอธิบายยังไงดี คือความรู้สึกตอนนั้น ทำไมมันถึงสวยอะไรอย่างงี๊นี่มันแค่ถนนริมมหาสมุทรเท่านั้นเอง ยังสามารถกดชัตเตอร์ได้เป็นเกือบชั่วโมง คิดได้ว่าเสียเวลามากแล้วจึงรีบขึ้นรถขับกลับเข้าสู่ถนนสายหลัก E10เพื่อไปยังเป้าหมายต่อไป
Nusfjord หมู่บ้านลึกลับที่แยกออกมาจากถนน E10 มาสุดเส้น Fv807 ที่เต็มไปด้วยกระท่อมไม้หลากสีตาม Style ของ Lofoten ที่นี่มีห้องพักที่เงียบสงบและวิวริมอ่าวมหาสมุทรที่สุดลูกหูลูกตา ส่วนตัวถ้ามีเวลาอยู่ที่นี่สักครึ่งวันน่าจะดี Cafe ที่นี่ก็ดูนั่งพักชิวชิว(แต่ตอนเมษา ปิดหมด) จุดถ่ายรูปก็เยอะมากจนถ่ายเหนื่อยเลย เป็นอีกที่ที่แนะนำต้องมาให้ได้
LOCATION
68.037216, 13.348664
Nusfjord Promenade หลังจากที่ถ่ายรูปกันเสร็จสับก็ขับรถต่อมาอีกนิดก็จะถึงสุดอ่าวซึ่งตรงนี้ จะมีหมู่บ้านที่มีทางเดินโดยรอบโดยสามารถเดินขึ้นไปบนเนินด้านหลังเพื่อที่จะไปถ่ายรูปมหาสมุทรได้ จุดนี้ต้องยอมรับว่ายิ่งใหญ่มาก และเมื่อมองลงมาก็จะทำให้สามารถเก็บภาพหมู่บ้านที่มีสีสันได้ทั้งหมดอีกด้วย
LOCATION
68.033756, 13.348177
ตลอด Promenade เต็มไปด้วยอุปกรณ์ประกอบฉากให้ถ่ายรูปเต็มไปหมด สีสันที่แปลกตา หากใครชอบบรรยากาศเงียบๆ อยากมาพักที่นี่ก็ตอบโจทย์อย่างดีคะ ร้านอาหารในช่วง Peak ก็น่านั่งได้เพลินๆเลยคะ
E10 (National Science Route) ที่มีลักษณะเด่นที่ทอดยาวเชื่อมต่อเมืองทาง Historic ของ Lofoten รถน้อยถึงน้อยมากจึงเหมาะกับการปั่นจักรยาน ซอกซอนไปตามเมืองต่างๆ วิวตลอดทางจึงดูสวยแปลกตาสำหรับนักเดินทางมาก
นอกจากความสวยงามของทิวทัศน์ในทุกฤดูแล้ว วิถีชีวิตแบบชาวประมงดั้งเดิมซึ่งได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีของที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้เข้ามาเที่ยวชมหมู่บ้าน โดยอาชีพหลักของLofoten เป็นชาวประมงส่วนใหญ่ โดยจะออกหาปลาและนำปลามาผ่านกระบวนการแปรรูปด้วยการตากแห้งเพื่อส่งขายและเก็บไว้ทานในฤดูหนาว ปลาส่วนใหญ่ที่จับได้ในเขตนี้คือปลาค็อด ซึ่งตลอดทางเราจะเห็นชาวประมงนำปลามาตากแห้งบนราวหรือชั้นไม้ตลอดเส้นทาง
Rambergstranda หาดที่มีหน้ากว้างตอนช่วง Summer จะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาเล่นเซิร์ฟ หาดนี้อยู่ริมถนนเส้น E10 เลยจุดนี้จะมี Tourist Center อยู่ซึ่งมีห้องน้ำให้เราเข้าทำธุระได้ วันที่เราไปหาดเต็มไปด้วยหิมะสูงเท่าหน้าแข้ง แต่ก็จะได้วิวที่ตัดกับเสื้อสีสดๆๆ ได้สวยทีเดียว
LOCATION
68.096009, 13.244008
Hamnoy Bridge ในที่สุดเราก็ขับรถมาตามถนน E10 ครึ่งทางแล้ว โดยเราจะพบจุดหมายของนักท่องเที่ยวที่ไงต้องมาถ่ายรูปวิวและมุมนี้ให้ได้ ซึ่งจุดที่ดีที่สุดก็คือขึ้นไปบนสะพานแต่ก็ระวังรถสวนมาหน่อยนะคะ จับจังหวะให้ดี ยืนเหม่อลอยและมองวิวที่ข้างหน้าเป็น Cottage สีแดง และ ข้างหลังเป็นภูเขาขนาดใหญ่ ด้านซ้ายเป็นน้ำทำให้คิดว่าคนวางตำแหน่งนี้เป็นจิตรกร หรืออย่างไรวางเหมาะเจาะจริงๆ
LOCATION
67.945326, 13.133600
Sakrisøya เดินเลยมาอีกปลายของสะพานทางด้านซ้ายจะพบกับ Cottage สีเหลือง ที่เราเห็นในภาพ Postcard PR LOFOTEN บ่อยๆ ซึ่งได้ยินว่าเป็นจุดที่เยี่ยมที่สุดในการชมพระอาทิตย์ตกดิน แต่เราไม่มีเวลาที่จะรอขนาดนั้นเลยรีบถ่ายรูปและมุ่งไปเมื่องข้างหน้าต่อ
LOCATION
67.941327, 13.115779
Anita’s Sjømat (Anitas Seafood) เป็นจุดที่เราวางแผนจะมาทานอาหารกลางวันกันแต่ด้วยเป็นช่วง LOW ส่วนร้านอาหารจึงปิดปรับปรุงเสียดายมากกกก จึงจำใจสั่ง Fish&Ship ง่ายไปกินในรถ แต่สิ่งที่เราได้มามากกว่านั้นคือ King Crab ขอบอกว่าที่นี่ถูกกว่าเมืองไทยมากโข (ประมาณ 4 เท่าได้) และ หยิบเอา คาร์เวียร์ มาทานกับขนมปังเป็นมื้อเย็น
LOCATION
67.941699, 13.112152
Reine ในที่สุดเราก็มาถึง Reine ซึ่งเวลาก็ล่วงเลยมาค่อนวันเนื่องจากเราจอดแวะถ่ายรูปเป็นระยะๆ เมือง Reine จุดถ่ายรูปที่สำคัญอยู่ทางเข้าหมู่บ้านซึ่งเค้าจัดที่จอดรถให้นักท่องเที่ยวจอดรถถ่ายรูปกันอย่างหนำใจซึ่งแน่นอนภาพที่เราเห็นนี่เหมือนกับภาพวาดอย่างใดอย่างนั้น
LOCATION
67.929863, 13.081835
Reine Rorbuer เนื่องจากตอนที่ไปเราไม่รู้ตำแหน่งของภาพที่มีทางเดินยาวมุ่งไปที่ภูเขารูปทรงแปลกที่เราเห็นในPostcard บ่อยๆ ทำให้เราขับพยายามหาจุดนั้นในตัวหมู่บ้านReine จนมาสุดทางที่ Reine Rorbuer ซึ่งเป็นที่พักอยู่ติดกับอ่าว มีสะพานไม้ทอดยาวอยู่ตัวหนึ่งซึ่งเหมาะเจาะกับน้ำและภูเขาด้านหลังมาก
LOCATION
67.935589, 13.087450
Reine Rorbuer น้ำที่นิ่งจนสามารถสะท้อนภาพภูเขาอันอลังการเหมือนกระจก มีระเบียงไม้ขนาดใหญ่ ให้ยืนถ่ายรูปเท่ๆ ซึ่งที่จุดนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่เราใช้เวลามากที่สุดอีกจุดหนึ่ง แต่ก็คุ้มที่ได้ภาพสวยๆมา ซึ่งเราแนะนำให้ต้องมาให้ได้อีกจุดหนึ่งของ LOFOTEN
LOCATION
67.935893, 13.087838
ก่อนจากเมือง Reine ไปขอเก็บภาพหิมะขาวๆกับCottage สีแดงส้มไว้เป็นที่ระลึกอีกภาพ
A เมืองปลายทางของ Trip ล่องทางใต้ Lofoten ที่นี่ตอนแรกก็นึกว่าไม่มีไรมาก แต่พอขับรถมายังตรงที่เป็นPier แล้วมองย้อนกลับไปทางหมู่บ้านพร้อมกับแสงอาทิตย์อ่อนๆของตอนเย็นนี่หละภาพวาดชัดๆๆ หยิบกล้องมือถือขึ้นมาถ่ายและได้ภาพอย่างงี๊มาคะสวยงามตามท้องมหาสมุทรจริงๆและนี่เป็นอีกจุดที่เราแนะนำให้มาถ่ายรูปกันให้ได้นะคะ
LOCATION
67.879958, 12.988017
Horn ระหว่างทางกลับเราก็ยังดั้นด้นหาสถานที่ภูเขารูปทรงแปลกๆที่เราหาอยู่จนมาสะดุดตาสถานที่ที่เราเรียกว่า Horn พอปีนลงไปดูที่สะพานไม่้ ดีใจสุด ใช้แล้วจุด Check In สุดท้ายที่เราหาไว้เลยรีบหยิบมือถือมาถ่ายโดยไม่ได้ตั้งใจมากนัก เพราะตอนนั้นพระอาทิตย์เริ่่ิมคล้อยต่ำลงไปแล้ว ซึ่งเราไม่อยากกลับถึงที่พักดึกมากนัก 🙂
LOCATION
67.935647, 13.076040
Best Dinner with Best Loacation กลับถึงที่พักรีบเอา King Crab ที่ซื้อมาเข้าเตาอบและเตรียมขนมปังตั้งโต๊ะหันออกไปที่ทะเลสาบตอนพระอาทิตย์ตกพอดีช่างเป็นสุขจริงๆสำหรับบรรยากาศในตอนนี้ และแอบคิดว่าวันนี้โชคดีแล้วอาจโชคดีได้เห็นแสงเหนือแบบเต็มๆสักครั้ง
SECRETE SPOT เราวางแผนว่าตอนกลางคืนจะลองหาสถานที่มึดๆแต่ไม่เปลี่ยวมากนักโดยมองจากในGoogle พบว่ามีที่ใกล้ๆที่พัก มีที่จอดรถ และดูไม่เปลี่ยวมากเกินไป พอถึงเวลา ค่า KPใกล้เข้ามาเรารีบบึ่งรถออกไปยังจุดที่ว่า แต่ท้องฟ้าตอนนั้นไม่เห็นไรมากนอกจากความมึด แทบจะท้อใจไปแต่ก่อนที่จะกลับลองเอากล้องออกมาสาดถ่ายรูป ก็สะดุ้งดีใจว่ามีแสงสีเขียวโผล่ออกมา รีบหยิบกล้องขาตั้งกล้องออกจากรถ ไม่ทันไร ฟ้าที่มีสีดำด้วยความมึดก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวจาก Aurora เต้นระบำทั่วท้องฟ้า ซึ่งที่ผ่านมาเราไม่เคยเห็นสีเขียวจากตาเปล่าเลยทำให้ครั้งนี้เราถึงกับอึ้งด้วยสิ่งมหัศจรรย์ของดินแดนสแกนดิเนเวียที่เรียกว่าแสงเหนือครั้งนี้ แต่หลังจากนั้นเราก็เริ่มตั้งกล้องพยายามถ่ายภาพให้ติดกับแสงเหนือด้วยความรู้งูงูปลาๆและประสบการณ์จาก TROMSO (ติดตาม PART 1) จนได้รูปออกมาโชว์ได้บ้าง
LOCATIOn
68.152592, 13.542487
กลับถึงที่พักก็ยังเห็นแสงสีเขียวบางๆเต้นระบำไปอีก 2ชั่วโมง ถือว่าคุ้มสุดๆสำหรับวันนี้ ซึ่งพรุ่งนี้เราวางแผนจะขึ้นไปทางเหนือบ้างและหวังว่าจะเจออไรดีดีเหมือนวันนี้
LET WE BE A PART OFYOUR ADVENTURE
Winter Clothing
Winter Clothing
~ LET WE BE A PART OF YOUR ADVENTURE ~
ร้านให้บริการ เช่าเสื้อกันหนาว และอุปกรณ์กันหนาว แบรนด์ The North Face Columbia Zara Esprit Bossini ของแท้
~ สนใจสอบถามสินค้าได้ ~