Iceland ประเทศที่เป็นเป้าหมายในชีวิตของนักท่องเที่ยวแนว Adventure ว่าต้องไปถ่ายรูปกับแสงเหนือ กับ ธรรมชาติอันใหญ่โต หรือสถาปัตยกรรมอันแปลกตาให้ได้ ซึ่งเมืองหลวง Reykjavík ยังเป็นเมืองที่มีเสนห์มีสถาปัตยกรรมที่อิงต่อธรรมชาติมากมาย
โดยในบทความวันนี้ Winter Clothing ร้านเช่าเสื้อกันหนาว จะพามารู้จักกับโบสถ์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ ที่ชื่อว่า ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrimskirkja) ซึ่งเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของ Iceland ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก “ภูเขาไฟ” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของประเทศค่า
Picture Credit: Fotovoyager/iStock.
ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrimskirkja) นับว่าเป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ เป็นจุดที่สูงอีกจุดหนึ่งของเมืองที่เมื่อขึ้นไปด้านบนจะมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของเรกยาวิก (Reykjavik) โดยตัวโบสถ์ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเรกยาวิกซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ โบสถ์แห่งนี้ออกแบบโดย สถาปนิกชื่อดัง ผู้มีชื่อว่า กุธยอน ซามูเอลสัน (Guojon Samuelsson) โดยตัวโบสถ์ถูกสร้างขึ้น และตั้งชื่อตามชื่อพระในศาสนาคริสต์ที่มีชื่อว่า ฮาลล์กริมูร์ เพทูร์สัน (Hallgrímur Pétursson) ที่เป็นทั้งนักกวี นักประพันธ์ ผลงานที่มีชื่อและเป็นที่รู้จักกันอย่างดีของชาวไอซ์แลนด์ อย่าง Passion Hymns ที่ถูกนำไปดัดแปลงรังสรรค์เป็นบทเพลง บทสวดสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า ในวิถีชีวิตทางศาสนาของชาวไอซ์แลนด์ โดยโบสถ์มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrimskirkja) ที่มีความหมายว่า “โบสถ์ของฮาลล์กริมูร์” คะ
Picture Credit: Eileen Cotter Wright
ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrimskirkja) ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบ จากหินลาวาภูเขาไฟ หรือที่เรียกว่า หินบะซอลล์ (Basalt Rock) ที่เกิดจากการเย็นตัวของลาวาภูเขาไฟอย่างรวดเร็วบนพื้นผิวโลก มีสีดำและสีเทา โดยออกแบบให้เหมือนมีแท่งหินบะซอลล์เรียงซ้อนกันแนบสนิทเป็นผนังอาคารโบสถ์ ไล่ระดับจากซ้ายขวาขึ้นสู่จุดสูงสุดตรงกลาง จนกลายเป็นโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามอลังการ ในขณะเดียวกัน การตกแต่งภายในกลับเรียบง่ายแต่ยังคงไว้ซึ่งความสวบงามสไตล์ minimalist ซึ่งโบสถ์นี้ ใช้เวลาก่อสร้างยาวนาน ถึง 41 ปี คือตั้งแต่ปี ค.ศ. 1945 แล้วเสร็จในปี ค.ศ.1986 และกลายเป็น landmark สำคัญของประเทศไอซ์แลนด์มาจนถึงทุกวันนี้
Picture Credit : stephencurryone.org
ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrimskirkja) นับเป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวเมื่อมาเยือนประเทศไอซ์แลนด์แล้วจะพลาดไม่ได้ โดยสามารถขึ้นไปชมวิวเมืองที่สวยงามของประเทศไอซ์แลนด์ได้ โดยมีลิฟท์ให้บริการขึ้นไปสู่ยอดหอระฆัง (Bell Tower) ที่มีจุดชมวิวภายนอกแบบเปิดโล่ง (Open-air Observation Deck) โดยสามารถชมทัศนียภาพอันสวยงามของบ้านเมืองในนครเรกยาวิก ได้ด้วยคะ โดยมีเวลาให้บริการ ตามนี้นะคะ ก่อนไปเช็คอีกทีนะคะว่า ปิดจากสภาพอากาศไหมคะ
Operation Hours
Winter (ช่วงเดือนตุลาคม – เมษายน) : เปิดให้บริการ ระหว่างเวลา 9.00 – 17.00 น.
Summer (ช่วงเดือนพฤษภาคม – กันยายน) : เปิดให้บริการ ระหว่างเวลา 9.00 – 21.00 น.
*ปิดให้บริการวันทุกวันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 10.30 – 12.15 น. และวันหยุดนักขัตฤกษ์ (ประกอบพิธีการทางศาสนา)
Picture Credit : stephencurryone.org
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมในช่วงเทศกาล Winter Lights Festival ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ โดยโบสถ์จะถูกตกแต่งประดับประดาไปด้วยแสงไฟสวยงามตระการตา มากๆคะ
Picture Credit: Fotovoyager/iStock.
Admission Fee
ผู้ใหญ่ : 8 USD (ISK 1,000)
เด็กอายุ 7-16 ปี : 1 USD (ISK 100) *เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี เข้าชมฟรี
Picture Credit : stephencurryone.org
หากใครได้ไปเยือนประเทศไอซ์แลนด์ ก็อย่าลืมแวะไปชม โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา กันนะคะ และหากเป็นการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวด้วยแล้ว ก็อย่าลืมจัดเตรียมเสื้อกันหนาว และอุปกรณ์กันหนาวที่มีคุณภาพดีอย่าง The North Face, Columbia, Esprit, Bossini, Zara, และแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ จาก Winter Clothing ร้านเช่าเสื้อกันหนาว แบรนด์เนมของแท้ เพื่อช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น พร้อมลุยท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวกันด้วยนะคะ
LET WE BE A PART OF YOUR ADVENTURE
Picture Credit : stephencurryone.org
Winter Clothing
Winter Clothing
~ LET WE BE A PART OF YOUR ADVENTURE ~
ร้านให้บริการ เช่าเสื้อกันหนาว และอุปกรณ์กันหนาว แบรนด์ The North Face Columbia Zara Esprit Bossini ของแท้
~ สนใจสอบถามสินค้าได้ ~