What is the Blue Lagoon?
the Blue Lagoon อยู่ที่ไหนในไอซ์แลนด์? อะไรทำให้สปาสุดหรูแห่งนี้มีความพิเศษและ Lagoon เกิดขึ้นได้อย่างไร? ดูข้อมูลทั้งหมดที่เพื่อนๆต้องรู้เกี่ยวกับ Blue Lagoon สปาในไอซ์แลนด์ ในบทความนี้ได้เลยคะ

What is the Blue Lagoon?
the Blue Lagoon เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์และไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม น้ำสีฟ้าน้ำนมที่สวยงามไม่เหมือนสิ่งอื่นใดที่พบบนโลกและตัดกันอย่างสิ้นเชิงกับลาวาสีดำโดยรอบและมอสสีเทาที่กำลังแผ่ขยายเข้ามา อุณหภูมิของน้ำอยู่ที่ 39 ° C (102 ° F) ตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นอุณหภูมิในการอาบน้ำที่สมบูรณ์แบบที่สุด

ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่บนคาบสมุทร Reykjanes Peninsula ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีชื่อเสียงในด้านภูมิประเทศที่แห้งแล้งและภูเขาไฟที่เป็นรูปคล้ายรูปกรวย ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์เพียง 15 นาทีจากสนามบินนานาชาติ Keflavík และใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 30 นาที จากเมืองหลวง Reykjavík นั่นทำให้เป็นจุดแวะแรกเมื่อมาถึงไอซ์แลนด์หรือจุดสุดท้ายก่อนออกจากประเทศที่สมบูรณ์แบบ
เนื่องจากทำเลที่ตั้งที่ดีเยี่ยม น้ำแร่ที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และการบำรุงผิวที่ดีเยี่ยม the Blue Lagoon จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดของไอซ์แลนด์อย่างรวดเร็วในเส้นทาง the Golden Circle sightseeing route.

The History and Concept of the Blue Lagoon
ประวัติของ Blue Lagoon ย้อนกลับไปในปี 1976 Blue Lagoon ถูกสร้างขึ้นถัดจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Svartsengi) ซึ่งตรงกันข้ามกับสิ่งที่ทุกคนคิดเพราะ Blue Lagoon ไม่ใช่น้ำพุร้อนธรรมชาติ แต่เป็นสระน้ำที่สร้างขึ้นจากมนุษย์สร้าง ในความเป็นจริงมันเป็นน้ำเสียที่ถูกปล่อยจากโรงไฟฟ้าที่กำลังขุดเจาะไอน้ำและน้ำร้อน แต่ไม่ต้องกังวลน้ำมีความสะอาดหมดจดและไม่มีสารเคมีอันตรายมีเพียงแร่ธาตุจากธรรมชาติเท่านั้น ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าดีต่อผิวของผู้คน (เนื่องจากน้ำไหลลงสู่ Lagoon อย่างต่อเนื่อง ทุก 48 ชั่วโมง จึงแน่ใจได้ว่าน้ำจะสะอาดอยู่เสมอ)
Credit : Sam Park

Why Did People Start Bathing in the Blue Lagoon?
ในปี 1981 เมื่อมีคนอยากลองอาบน้ำใน Blue Lagoon ซึ่งทุกคนไม่แน่ใจเกี่ยวกับความคิดนี้จะดีมากนัก แต่มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่เป็นโรคสะเก็ดเงินอยากลองอะไรที่อาจช่วยบรรเทาผิวของเขาได้ และเขาได้รับอนุญาตจาก the geothermal plant chairman ให้ลองลงไปใน Lagoon
ซึ่งอย่างน่าประหลาดใจ น้ำและสาหร่ายใน Blue Lagoon ทำให้ผิวของเขาดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
Valur Margeirsson เป็นคนแรกที่ตั้งชื่อ ‘the Blue Lagoon’ หรือ ‘BláaLónið’ ในไอซ์แลนด์และชื่อนี้ก็ยังใช้ติดอยู่จนถึงปัจจุบัน
Credit : bluelagoon.com

ต่อมาในปี 1987 ‘the Blue Lagoon’ จึงได้เปิดเป็นสถานที่อาบน้ำสาธารณะครั้งแรก โดยส่วนใหญ่มีไว้สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิว โดยสิ่งอำนวยความสะดวกในตอนแรกมีเพียงองค์ประกอบพื้นฐาน เช่น ฝักบัวเพียงไม่กี่อัน และพื้นที่หาดทรายขาวขนาดเล็ก เนื่องจากชาว Iceland มีวัฒนธรรมการอาบน้ำกลางแจ้ง โดยจะมีบ่อน้ำ บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติมากมาย หรือ สระว่ายน้ำหลายแห่งทั่วไอซ์แลนด์ และReykjavík
ดังนั้น จึงใช้เวลาไม่นานสำหรับคนในท้องถิ่นที่จะเริ่มแห่มาที่นี่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากทำเลที่ตั้งสะดวกสบายขับรถไม่ไกลจากเมืองหลวง ‘the Blue Lagoon’ จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์อย่างรวดเร็ว ทั้งคนในพื้นที่และชาวต่างชาติแวะเวียนมาใช้บริการ
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Blue Lagoon จึงกลายเป็นสปาระดับโลกรองรับแขกหลายแสนคนในแต่ละปี
Credit : bluelagoon.com

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นในปี 1999 ‘the Blue Lagoon’ ถูกย้ายออกห่างไกลจากโรงงานความร้อนใต้พิภพและเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังเพิ่มคาเฟ่ โรงแรม ร้านอาหาร และ ร้านค้าที่สามารถซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับผิวที่ผลิตจากแร่ธาตุของ Blue Lagoon นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเส้นทางเดินสะพานเล็ก ๆ และห้องซาวน่าเข้าไปในพื้นที่ด้วย โดยได้ขยายพื้นที่ จาก 5,000 ตารางเมตร เป็นกว่า 8,700 ตารางเมตร ต่อมา
Picture Credit : bluelagoon.com

How Does a Visit to the Blue Lagoon Work?
ก่อนอื่นเพื่อนๆจะต้องจองผ่านเว็บไซต์ของ’the Blue Lagoon’ ที่ https://www.bluelagoon.com ล่วงหน้าเนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไอซ์แลนด์และขายหมดเกือบทุกวัน หากเพื่อนๆพยายามจองตั๋วล่วงหน้าเพียงวันหรือสองวันมีแนวโน้มว่าจะถูกจองเต็ม หรือได้ในราคาที่สูง
หลังจากจองแล้วเพื่อนๆจะต้องเตรียมการเดินทางไปยังทะเลสาบ กรณีที่เดินทางตรงจากสนามบินวิธีที่ง่ายๆที่สุด คือจองรถบัสที่จะพาเพื่อนๆตรงจากสนามบินไปยัง Blue Lagoon แล้วไปยังReykjavíkได้ในภายหลัง หรือหากเพื่อนๆจองก่อนออกจากไอซ์แลนด์ มีรถบัสจาก Reykjavík ไปยังบลูลากูนซึ่งจะพาเพื่อนๆไปสนามบิน เช่นกัน
บางทีเพื่อนๆอาจจะเช่ารถ และพักใน Reykjavík ก็ได้ โดยเพื่อนๆสามารถขับรถไปที่นั่นด้วยตัวเอง ขับรถประมาณ 35 นาทีจากใจกลางเมืองReykjavík
หรือเพื่อนๆสามารถจองทัวร์ที่จะพาเพื่อนๆไปที่ Blue Lagoon และกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ทัวร์ ATV ถ้ำลาวา หรือ ทัวร์ the Golden Circle sightseeing route. อย่างไรก็ตามเพื่อนๆยังคงต้องจองตั๋วเข้า Blue Lagoon ด้วยตัวเองสำหรับทัวร์เหล่านี้
Credit : bluelagoon.com

เมื่อเพื่อนๆมาถึงที่จอดรถ Blue Lagoon เพื่อนๆจะเห็นเส้นทางเดินที่ทอดยาว 200-300 เมตร ผ่านลาวา ไปยังทางเข้า หากเพื่อนๆต้องการเก็บกระเป๋าเดินทางจะมีที่เก็บสัมภาระที่จุดเริ่มต้นของเส้นทางถัดจากที่จอดรถ (ด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนตรวจสอบให้แน่ใจว่าเพื่อนๆแต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายที่อบอุ่นพอหากเพื่อนๆมาในฤดูหนาว)
เพื่อนๆจะเข้าไปในอาคารต้อนรับหลักซึ่งเพื่อนๆอาจต้องเข้าคิว เพื่อรับสายรัดข้อมืออิเล็กทรอนิกส์จากเจ้าหน้าที่ หากเพื่อนๆจอง comfort, premium, หรือ luxury package พนักงานจะมอบผ้าขนหนูเสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าสำหรับเปลี่ยนให้ที่นี่ (แต่ถ้าไม่ได้จองเป็น Package ต้องเตรียมมาเองคะ)
เมื่อเพื่อนๆผ่านบริเวณแผนกต้อนรับแล้ว เพื่อนๆจะต้องถอดรองเท้าและเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยมีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับผู้ชายและอีกห้องสำหรับผู้หญิงที่แยกกัน
เพื่อนๆสามารถถอดเสื้อผ้าและเก็บของไว้ในตู้เก็บของได้ที่นั่นโดยใช้สายรัดข้อมืออิเล็กทรอนิกส์เป็นตัวเปิดและปิดตู้นั้น จากนั้นเพื่อนๆจะต้องอาบน้ำเปล่าก่อนที่จะสวมชุดว่ายน้ำและลงสู่ Lagoon เนื่องจากน้ำใน Lagoon ไม่มีคลอรีน ดังนั้น ต้องสะอาดหมดจดเมื่อเข้าไป โดยทางลง Lagoon สามารถลงผ่านจากในห้องน้ำของผู้หญิงและผู้ชายโดยตรงและออกสู่ส่วน Public ได้ทันที ดังนั้น ถ้าไปกับแฟน หรือ เพื่อนควรนัดจุดนัดพบกันดีดีนะคะ

เมื่อเพื่อนๆเข้าไปในทะเลสาบแล้วอย่าลืมแวะไปที่ Bar ซึ่งเพื่อนๆสามารถซื้อเครื่องดื่มโดยใช้สายรัดข้อมืออิเล็กทรอนิกส์ได้หากต้องการ
นอกจากนี้ยังมี mud bar ที่เพื่อนๆสามารถรับ Silica Mud Mask สำหรับไว้พอกหน้าของเพื่อนๆได้ – ซึ่งทุกคนที่มาใช้บริการจะได้รับ นอกจากนี้ยังสามารถซื้อหน้ากากสาหร่ายเพิ่มเติมได้โดยใช้สายรัดข้อมืออิเล็กทรอนิกส์
สุดท้าย ก็ลองเดิน Enjoy ในน้ำสำรวจรอบๆ Lagoon ปล่อยให้น้ำจากน้ำตกเล็ก ๆ กระทบไหล่ของเพื่อนๆ ลองเข้าห้องซาวน่าและทำความสะอาดผิวของเพื่อนๆในห้องซาวน่าและห้องอบไอน้ำสามแบบที่แตกต่างกัน และถ้าข้างนอกมืดอย่าลืมมองบนท้องฟ้าเพื่อหาแสงเหนือด้วยนะคะ
Credit : bluelagoon.com

Blue Lagoon Opening Hours & Best Time to Visit
หลายคนสงสัยว่าเวลาไหนดีที่สุดในการไป Blue Lagoon ทั้งในแง่ของฤดูกาลและช่วงเวลาของวัน
เวลาเปิดทำการของ Blue Lagoon มีดังนี้:
1 ม.ค. – 22 มี.ค. : 08:00 – 21:00 น
23 มี.ค. – 18 มิ.ย. : 08:00 – 21:00 น
19 มิ.ย. – 31 ส.ค. : 15:00 – 22:00 น
8 ต.ค. – 2 พ.ย. : ปิดทำการ
3 พ.ย. – 31 ธ.ค. (จันทร์ – พฤหัสบดี): 15:00 – 22:00 น
3 พ.ย. – 31 ธ.ค. (ศุกร์ – อาทิตย์): 11:00 – 22:00 น
Credit : bluelagoon.com

ช่วงที่ได้รับความนิยมน้อยที่สุดในการจองคือในตอนเช้าและตอนก่อนจะปิดของแต่ละวัน แม้ว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะไม่เป็นที่นิยมนัก แต่ Lagoon ก็ยังคงเต็มอยู่เนื่องจากไม่มีการ จำกัด ระยะเวลาที่สามารถอยู่ใน Lagoon ได้และคนส่วนใหญ่ใช้เวลาอย่างน้อยสองชั่วโมงในการใช้บริการ
ดังนั้น เพื่อให้ได้ความคุ้มค่าที่สุดอย่าจองช่วงเวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนเวลาปิด เนื่องจากการเข้าส่วน Lagoon ใช้เวลาพอสมควรเนื่องจากเพื่อนๆอาจต้องเข้าคิวรับกุญแจจากนั้นถอดเสื้อผ้าและอาบน้ำในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า และหลังจากเพลิดเพลินกับการแช่ตัวในทะเลสาบแล้วเพื่อนๆอาจต้องใช้เวลาเตรียมตัวอีกครั้ง
ช่วงเย็นน่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการใช้บริการ จะมีอะไรดีไปกว่าการพักผ่อนหลังจากท่องเที่ยวมาทั้งวันขี่ม้า ขับรถเอทีวี สโนว์โมบิล หรือ ดูปลาวาฬ ไปกว่าการเข้าสปาเพื่อผ่อนคลายสักสองสามชั่วโมง

Top Adventure Tours
ในช่วงฤดูร้อนเวลาเปิดทำการถึง 22:00 น. ดังนั้นพื่อนๆอาจต้องการจองในช่วงเวลา 19:00 น. หรืออย่างช้าที่สุดก็คือ 20:00 น. ซึ่งจะช่วยให้พื่อนๆมีเวลาเที่ยวชมรับประทานอาหารเย็นจากนั้นพักผ่อนใน Lagoon และเพลิดเพลินกับพระอาทิตย์เที่ยงคืน
อย่างไรก็ตามในฤดูหนาว Lagoon จะปิดเวลา 21:00 น. ตอนเย็นยังเป็นที่นิยมในฤดูหนาวเนื่องจากไม่มีสถานที่ใดที่จะชื่นชมแสงเหนือได้ดีไปกว่าสระว่ายน้ำอุ่นสบาย
ข้อแนะนำ:
- เช็คว่าพระอาทิตย์ตกดินกี่โมง (เนื่องจากเวลาจะแตกต่างกันมากขึ้นอยู่กับเดือนที่พื่อนๆไปเที่ยวไอซ์แลนด์) และพยายามจองช่วงเวลาที่จะให้เพื่อนๆอยู่ใน Lagoon อย่างน้อยสองชั่วโมง
- ไอซ์แลนด์กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับวันหยุดช่วงคริสต์มาส การให้ของขวัญในการเข้าใช้บริการ Blue Lagoon ถือเป็นของขวัญวันหยุดที่สมบูรณ์แบบ (ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเพื่อนๆได้จองการเข้าชมไว้ล่วงหน้าเนื่องจากเป็นช่วงเวลายอดนิยมในการเยี่ยมชมและเวลาเปิดทำการมี จำกัด มากขึ้น)

และก่อนเก็บกระเป๋าเดินทาง ก็อย่าลืมเตรียมเสื้อกันหนาวคุณภาพดี จากร้านเช่าเสื้อกันหนาวและอุปกรณ์กันหนาว WinterClothing ที่ให้บริการเช่าเสื้อกันหนาวและอุปกรณ์กันหนาวแบรนด์เนมระดับโลก อย่าง The North Face และ Columbia ที่จะช่วยให้เติมเต็มความอบอุ่น ให้คุณพร้อมไปท่องเที่ยวกันแบบสุดฟินกันเลยนะคะ
LET WE BE A PART OF YOUR ADVENTURE
Winter Clothing
Winter Clothing
~ LET WE BE A PART OF YOUR ADVENTURE ~
ร้านให้บริการ เช่าเสื้อกันหนาว และอุปกรณ์กันหนาว แบรนด์ The North Face Columbia Zara Esprit Bossini ของแท้
~ สนใจสอบถามสินค้าได้ ~